เมนู

ข้าแต่พระมหาราช ข้อนี้แล ที่พระผู้มีพระเจ้าผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็น
พระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงมุ่งหมาย ตรัสไว้ว่า โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รัก เพคะ.

พระเจ้าปเสนทิโกศลเปล่งอุทาน



[548] ป. ดูก่อนมัลลิกา น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา เท่าที่พระผู้มี
พระภาคเจ้าพระองค์นั้น คงจะทรงเห็นชัด แทงตลอดด้วยพระปัญญา มานี่เถิด
มัลลิกา ช่วยล้างมือให้ทีเถิด.
ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จลุกขึ้นจากอาสน์ ทรงพระภูษา
เฉวียงพระอังสาข้างหนึ่ง ทรงประนมอัญชลีไปทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ
อยู่แล้วทรงเปล่งพระอุทานว่า ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดังนี้ 3 ครั้ง ฉะนี้แล.
จบปิยชาติกสูตรที่ 7

อรรถกถาปิยชาติกสูตร



ปิยชาติกสูตรมีคำเริมต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
ในบทเหล่านั้น บทว่า เนว กมฺมนฺตา ปฏิภนฺติ ความว่า การงานย่อม
ไม่ปรากฏทั้งสิ้นโดยประการทั้งปวงคือ ย่อมไม่ปรากฏโดยการกำหนดตามปรกติ.
แม้ในบทที่สองก็นัยนี้นั่นเทียว. ก็บทว่า น ปฏิภนฺติ ในพระสูตรนี้ แปล
ว่า ไม่ถูกใจ. บทว่า อาหฬนํ แปลว่า ป่าช้า. บทว่า อญฺญถตฺตํ ได้แก่
ความเป็นโดยประการอื่น เพราะมิวรรณะแปลกไป. ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ
ชื่อว่า อินทรีย์. แต่คำนี้ ท่านกล่าวหมายถึงโอกาสที่อินทรีย์ตั้งอยู่แล้ว. บทว่า
ปิยชาติกา ความว่า ย่อมเกิดจากความรัก. บทว่า ปิยปฺปภิติกา ความ
ว่า มีมาแต่ของที่รัก. บทว่า สเจ ตํ มหาราช ความว่า แม้กำหนดความ
หมายของพระดำรัสนั้น จึงกล่าวอย่างนั้น ด้วยความศรัทธาในพระศาสดา.
บทว่า จร ปิเร ความว่า เธอจงหลบไปทางอื่นเสีย หมายความว่า เธออย่า
ยืนอยู่ที่นี้ก็ได้. อนึ่ง บทว่า จร ปิเร คือ เธอจงไปทางอื่น อธิบายว่า อย่ายืน
ในที่นี้บ้าง. บทว่า ทฺวิธา เฉตฺวา ความว่า ตัดกระทำให้เป็น 2 ส่วน ด้วย
ดาบ. บทว่า อตฺตานํ อุปฺปาเลสิ ความว่า เอาดาบนั่นแหละแหวะท้องของ
ตน. ก็ถ้าหญิงนั้นไม่เป็นที่รักของชายนั้น บัดนี้ ชายนั้น ไม่พึงฆ่าคนด้วยคิดว่า
เราจักหาหญิงอื่น. แต่เพราะหญิงนั้นเป็นที่รักของชายนั้น ฉะนั้น ชายนั้น.
ปรารถนาความพร้อมเพรียงกับหญิงนั้นแม้ในปรโลก จึงได้กระทำอย่างนั้น .
คำว่า พระกุมาร พระนามว่า วชิรีเป็นที่โปรดปรานของพระ-
องค์หรือ
ความว่า ได้ยินว่า พระนางนั้นได้มีคำริอย่างนี้ พระนางกล่าว